เชื่อมต่อระหว่างโปรแกรม Leceipt กับ Microsoft Dynamics 365 Business Central เพื่อสร้างเอกสาร e-Tax Invoice & e-Receipt
28/10/2022
ลายเซ็นดิจิทัลบนใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ไม่เป็นสีเขียวทำอย่างไร ?
02/12/2022
เชื่อมต่อระหว่างโปรแกรม Leceipt กับ Microsoft Dynamics 365 Business Central เพื่อสร้างเอกสาร e-Tax Invoice & e-Receipt
28/10/2022
ลายเซ็นดิจิทัลบนใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ไม่เป็นสีเขียวทำอย่างไร ?
02/12/2022

พัฒนาซอฟต์แวร์ e-Tax Invoice & e-Receipt เอง VS ซอฟต์แวร์ e-Tax Invoice & e-Receipt สำเร็จรูป เลือกแบบไหนดี? 

หากบริษัทมอบหมายงานให้คุณทำการนำเทคโนโลยีและกลยุทธ์ทางดิจิทัลเข้ามาใช้ในการดำเนินธุรกิจ (Digital Transformation) โดยการมอบหมายงานให้ Implement ระบบใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt) เข้ากับระบบงานเดิมของบริษัท

และคุณกำลังตัดสินใจว่าจะให้ทีม IT ของบริษัทพัฒนาโมดูล e-Tax Invoice & e-Receipt ขึ้นมาใหม่เองทั้งหมด หรือเชื่อมต่อกับซอฟต์แวร์ e-Tax Invoice & e-Receipt สำเร็จรูปที่พร้อมใช้งานอยู่แล้ว จะเลือกแบบไหนดี? บทความนี้มีคำตอบ 

ขั้นตอนแรกสอบถามความต้องการ (Requirement) ของผู้ที่เกี่ยวข้อง 

ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกว่าจะเลือกใช้แบบไหน คุณควรทำการสอบถามความต้องการ (Requirement) ของผู้ที่เกี่ยวข้องทุกแผนกในองค์กรก่อน เช่น แผนกบัญชีที่เป็นผู้ใช้งานโดยตรงมีความต้องการอย่างไร แผนก IT มีความต้องการอย่างไร รวมถึงผู้บริหารมีความต้องการอย่างไรเกี่ยวกับระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt  

สอบถามข้อมูลซอฟต์แวร์ e-Tax Invoice & e-Receipt สำเร็จรูป 

หลังจากได้ความต้องการของผู้ใช้งานทั้งหมดในองค์กรแล้ว (Requirement) ให้สอบถามข้อมูลไปที่ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ e-Tax Invoice & e-Receipt สำเร็จรูป ว่าสามารถทำได้ทั้งหมดตรงกับความต้องการของบริษัทหรือไม่ สาเหตุที่ให้สอบถามไปที่ซอฟต์แวร์สำเร็จรูปก่อนเพราะว่าทางเลือกนี้จะมีข้อดีในเรื่องของเวลาในการ Implement ระบบ

หากซอฟต์แวร์สำเร็จรูปสามารถตอบโจทย์ความต้องการของบริษัทได้เกิน 80% ผู้เขียนแนะนำให้เลือกซอฟต์แวร์สำเร็จรูปเพราะมีความเสี่ยงในการ Implement ระบบน้อยกว่า และประหยัดค่าใช้จ่าย ไม่ต้องจ่ายเงินก้อนแรกจำนวนมาก สามารถเริ่มใช้งานได้ทันที สรุปคือ ซอฟต์แวร์ e-Tax Invoice & e-Receipt สำเร็จรูปความเสี่ยงน้อยกว่านั่นเอง 

หากซอฟต์แวร์ e-Tax Invoice & e-Receipt สำเร็จรูป ไม่ตอบโจทย์ความต้องการของบริษัทจะทำอย่างไรดี ? 

หากซอฟต์แวร์ e-Tax Invoice & e-Receipt สำเร็จรูป ไม่ตอบโจทย์ความต้องการของบริษัท อาจจะต้องพิจารณาในการพัฒนาระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ขึ้นมาเอง หรือใช้ซอฟต์แวร์ e-Tax Invoice & e-Receipt สำเร็จรูปร่วมกับส่วนที่พัฒนาเพิ่มเติมขึ้นมาเอง เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของบริษัท 

ความเสี่ยงในการพัฒนาระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ขึ้นมาเองทั้งหมด คือ ใช้ระยะเวลานานและบางครั้งอาจจะทำไม่สำเร็จ ทำให้เสียเวลาและค่าใช้จ่ายจำนวนมากแต่ไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่จะต้องนำมาพิจารณาร่วมด้วยอย่างมาก 

ข้อดีของซอฟต์แวร์ e-Tax Invoice & e-Receipt สำเร็จรูป 

  • ประหยัดค่าใช้จ่าย ไม่ต้องลงทุนสูงในครั้งแรก 
  • มีฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลาย 
  • มีบริษัทดูแลเรื่องซอฟต์แวร์ให้ 
  • ซอฟต์แวร์อัปเดตตลอดเวลา 
  • ไม่ต้องจ้างพนักงานพัฒนาและดูแลซอฟต์แวร์ 
  • จัดเก็บไฟล์เอกสารให้ 

ข้อเสียของซอฟต์แวร์ e-Tax Invoice & e-Receipt สำเร็จรูป 

  • อาจจะตอบโจทย์ความต้องการของบริษัทเพียงบางส่วน 
  • ไม่สามารถแก้ไขปรับเปลี่ยนซอฟต์แวร์ได้เอง 
  • มีค่าใช้จ่ายรายเดือน 

ข้อดีของการพัฒนาซอฟต์แวร์ e-Tax Invoice & e-Receipt เอง 

  • ตอบโจทย์ความต้องการของบริษัท 100% 
  • ปรับเปลี่ยนซอฟต์แวร์เองได้ 
  • ไม่มีค่าใช้จ่ายรายเดือน 

ข้อเสียของการพัฒนาซอฟต์แวร์ e-Tax Invoice & e-Receipt เอง 

  • มีค่าใช้จ่ายการลงทุนครั้งแรกสูง 
  • ต้องจ้างพนักงานหรือ Outsource ที่มีความรู้ด้าน e-Tax Invoice & e-Receipt 
  • มีความเสี่ยงที่จะทำไม่สำเร็จ 
  • ต้องจัดเก็บไฟล์เอกสารเอง 
  • ต้องอัปเดตและดูแลระบบเอง 

การใช้ซอฟต์แวร์ e-Tax Invoice & e-Receipt สำเร็จรูป ข้อดีหลักๆ คือ จะมีความเสี่ยงต่ำกว่า ไม่ทำให้เสียเวลา และประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่า หากสนใจทดลองใช้งานซอฟต์แวร์ e-Tax Invoice & e-Receipt สำเร็จรูป สามารถทดลองใช้งานได้ที่ https://www.leceipt.com 

หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 082-579-8555 

ผู้เขียน นายกฤษณ์ สุขวัจน์ 

วันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

Comments are closed.

error: Content is protected !!