หากต้องการใช้ e-Tax Invoice & e-Receipt ต้องเริ่มยังไงและขออะไรบ้าง

สำหรับซอฟต์แวร์ Leceipt เป็นซอฟต์แวร์สร้างเอกสารใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี อิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Tax Invoice & e-Receipt ซึ่งรองรับในระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ของกรมสรรพากร

ถ้าหากต้องการใช้งาน ต้องมีชื่อเป็นผู้ได้รับการอนุมัตในระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ของกรมสรรพากรเสียก่อน นอกจากนี้ต้องมีใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์สำหรับออกลายเซ็นดิจิทัล (Digital signature) บนเอกสารใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี อิเล็กทรอนิกส์ สำหรับใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์มีวันหมดอายุ

จากรูปด้านล่างถ้าได้รับการอนุมัตในระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ของกรมสรรพากร จะปรากฏมีรายชื่อในเว็บไซต์ของกรมสรรพากร

จากรูปด้านล่างได้แสดงเอกสาร e-Tax Invoice & e-Receipt ได้ถูกลงลายเซ็นดิจิทัล ซึ่งต้องมีใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ก่อนจึงจะออกลายเซ็นดิจิทัลได้ (ลายเซ็นดิจิทัลเป็นลายเซ็นที่ถูกเข้ารหัสไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้)

เมื่อผู้ประกอบการได้รับการอนุมัตในระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ของกรมสรรพากร และใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์และทำการติดตั้งใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์แล้ว จากนั้นจึงจะสามารถใช้งานซอฟต์แวร์สำหรับออกเอกสารใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี อิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Tax Invoice & e-Receipt ได้นั่นเอง

ซึ่งซอฟต์แวร์ Leceipt นอกจากให้บริการสร้างเอกสารใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี อิเล็กทรอนิกส์ ก็มีบริการดำเนินการและยื่นขอดังนี้

1.ยื่นดำเนินการให้ผู้ประกอบการเป็นผู้ได้รับการอนุมัตในระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ของกรมสรรพากร

2.บริการขอและติดตั้งใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์

3.ค่าใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ (โดยมีแบบ 1 ปี และ 2 ปี)

ซอฟต์แวร์ Leceipt เป็นซอฟต์แวร์สร้างเอกสารใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี อิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt) โดยเมื่อสร้างเอกสารและลงลายเซ็นดิจิทัลแล้ว โดยมีรูปแบบไฟล์ออกเป็นไฟล์ PDF ซึ่งเป็นไฟล์สำหรับส่งให้กับลูกค้า (ส่งอีเมลและ SMS ผ่านซอฟต์แวร์ Lecipt) รวมไปถึงไฟล์รูปภาพ (ดาวน์โหลดที่ซอฟต์แวร์ Lecipt) และ ไฟล์ XML สำหรับส่งให้กับกรมสรรพากร

ผู้เขียน ศุภลักษณ์ สิงห์จารย์

วันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2566